การแบ่งส่วนตลาด คืออะไร? สิ่งสำคัญที่หลายแบรนด์มักลืม

การแบ่งส่วนตลาด เป็นหนึ่งสิ่งสำคัญที่เจ้าของธุรกิจควรจะทำเป็นอย่างยิ่ง แต่กลับลืม วันนี้เราจะพาไปดูถึงความสำคัญ

ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่เพียงธุรกิจที่มีสินค้าหรือบริการที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องเข้าใจผู้บริโภคอย่างแท้จริง ทุกความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าเปรียบเสมือนภาพที่ซับซ้อน ซึ่งการถอดรหัสภาพนี้ให้ชัดเจนคือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจกับการแบ่งส่วนตลาด (Market Segmentation) เครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ พร้อมชี้ให้เห็นว่าทำไมสิ่งนี้จึงมักถูกมองข้าม และผลกระทบที่อาจตามมาจากการละเลยการวางกลยุทธ์นี้

การแบ่งส่วนตลาด คืออะไร

การแบ่งส่วนตลาดคือการแบ่งกลุ่มลูกค้าภายในตลาดใหญ่ออกเป็นกลุ่มย่อยๆ โดยพิจารณาจากลักษณะ ความต้องการ พฤติกรรม หรือความชอบที่คล้ายคลึงกันในแต่ละกลุ่ม เป้าหมายของการแบ่งส่วนตลาดคือการทำความเข้าใจลูกค้าแต่ละกลุ่มอย่างลึกซึ้ง เพื่อพัฒนาสินค้า บริการ หรือการสื่อสารที่ตอบโจทย์เฉพาะกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์เครื่องสำอางอาจแบ่งตลาดตามประเภทผิว เช่น ผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวแพ้ง่าย เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับแต่ละประเภทผิว

ทำไมการแบ่งส่วนตลาดจึงสำคัญ?

การแบ่งส่วนตลาดช่วยให้แบรนด์เข้าใจลูกค้าในระดับที่ลึกกว่าแค่ข้อมูลพื้นฐาน เช่น เพศ หรืออายุ การรู้จักความต้องการและปัญหาเฉพาะของลูกค้าในแต่ละกลุ่มช่วยให้การพัฒนาสินค้าและบริการมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากรายงานของ Harvard Business Review พบว่า 81% ของลูกค้าต้องการแบรนด์ที่เข้าใจและตอบสนองต่อความต้องการเฉพาะตัวของพวกเขา การแบ่งส่วนตลาดที่ชัดเจนช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้า และเพิ่มอัตราการซื้อซ้ำ หรือที่เรียกว่า Customer Retention Rate

ลดการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น

การแบ่งส่วนตลาดช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนในแคมเปญการตลาดที่ไม่ตรงเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น แบรนด์ที่รู้ว่าลูกค้าหลักของพวกเขาคือคนวัยทำงาน จะไม่เสียเวลาไปกับการสร้างแคมเปญที่เน้นวัยรุ่น

ประเภทของการแบ่งส่วนตลาด

การแบ่งส่วนตลาดสามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน และวันนี้ Mozflow จะมานำเสนอให้ได้ชมกันว่ามีวิธีไหนบ้าง

การแบ่งตามประชากรศาสตร์ (Demographic Segmentation)

อายุ เพศ รายได้ การศึกษา ตัวอย่าง แบรนด์แฟชั่นที่มีไลน์สินค้าสำหรับวัยรุ่นและวัยทำงาน

การแบ่งตามภูมิศาสตร์ (Geographic Segmentation)

เป็นการแบ่งตามสถานที่ตั้ง ไม่ว่าจะเป็นเมือง เป็นประเทศ ตัวอย่างเช่น ร้านอาหารที่นำเสนอเมนูเฉพาะท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่

การแบ่งตามจิตวิทยา (Psychographic Segmentation)

วิธีนี้จะเป็นการแบ่งตลาดโดยวัดจากความสนใจ รวมไปถึงทัศนคติ และค่านิยม เช่น บริษัทท่องเที่ยวที่ออกแพ็คเกจสำหรับคนรักธรรมชาติ หรือคนชอบความหรูหรา ซึ่งจะเป็นแพ็คเกจที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนตามความชื่นชอบของกลุ่มคนที่มีความชอบไม่เหมือนกัน

การแบ่งตามพฤติกรรม (Behavioral Segmentation)

มาถึงวิธีสุดท้ายที่ใช้ในการแบ่งการตลาดที่จะนำมาเสนอให้ชมในวันนี้ โดยสามารถแบ่งจัดกลุ่มจากการใช้สินค้า หรือความถี่ในการซื้อ เช่น แบรนด์กาแฟที่มีเมนูพิเศษสำหรับลูกค้าขาประจำ

 

สิ่งที่หลายแบรนด์มักลืมเกี่ยวกับการแบ่งส่วนตลาด

หลายแบรนด์แบ่งตลาดในระดับพื้นฐาน เช่น เพียงแค่ตามอายุหรือเพศ ซึ่งอาจไม่ครอบคลุมความซับซ้อนของลูกค้าในยุคปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น คนสองคนในวัยเดียวกันอาจมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง การแบ่งส่วนที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เช่น การใช้ข้อมูลเชิงพฤติกรรมหรือจิตวิทยา จะช่วยเพิ่มความแม่นยำ

ขาดการทบทวนและปรับปรุงข้อมูล

พฤติกรรมของลูกค้ามีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การใช้ข้อมูลเก่าอาจทำให้แผนการตลาดล้าหลัง ตัวอย่างเช่น หลังการระบาดของโควิด-19 พฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

Case Study การแบ่งส่วนการตลาดของแบรนด์ระดับโลก

Nike ใช้การแบ่งส่วนตลาดที่ครอบคลุมทั้งประชากรศาสตร์ พฤติกรรม และจิตวิทยา ตัวอย่างเช่น

  • การพัฒนาสินค้าสำหรับกลุ่มนักกีฬาอาชีพ
  • การออกแคมเปญที่เน้นความหลากหลาย เช่น “Equality Campaign” เพื่อตอบสนองลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียม
  • การใช้ข้อมูลจาก Nike Training Club เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้แอปพลิเคชัน

จากที่กล่าวมาส่งผลให้ Nike สามารถสร้างรายได้กว่า $46 พันล้านในปี 2022 โดยมีส่วนสำคัญมาจากความสามารถในการตอบสนองกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายได้อย่างตรงจุด

ผลการสำรวจที่น่าสนใจ

รายงานจาก Statista ในปี 2023 ระบุว่า 71% ของนักการตลาดเชื่อว่าการแบ่งส่วนตลาดช่วยเพิ่ม ROI (ผลตอบแทนจากการลงทุน) อย่างมีนัยสำคัญ และแบรนด์ที่ใช้การแบ่งส่วนตลาดอย่างชาญฉลาดสามารถเพิ่มยอดขายได้ถึง 20-30% เมื่อเทียบกับแบรนด์ที่ไม่ได้ใช้กลยุทธ์นี้

บทเรียนสำคัญ

  • เข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง
  • ใช้ข้อมูลที่หลากหลายเพื่อแบ่งส่วนตลาด
  • ทบทวนและปรับปรุงการแบ่งส่วนอย่างต่อเนื่อง

สรุป

การแบ่งส่วนตลาดไม่ใช่แค่ “ทางเลือก” แต่เป็น “สิ่งจำเป็น” สำหรับแบรนด์ที่ต้องการความสำเร็จในระยะยาว การรู้จักและเข้าใจลูกค้าในแต่ละกลุ่มอย่างแท้จริงช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคง และเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

Previous Article

Touch Point คืออะไร จุดสัมผัสที่แสนจะสำคัญ

Next Article

Membership เครื่องมือการตลาดทรงพลัง ที่นักการตลาดมืออาชีพไม่ควรมองข้าม

Write a Comment

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Subscribe to our Newsletter

Subscribe to our email newsletter to get the latest posts delivered right to your email.
Pure inspiration, zero spam ✨