Retargeting คืออะไร ทำผ่านช่องทางไหนได้

Retargeting คือกลยุทธ์การตลาดที่ช่วยดึงผู้ใช้ที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์กลับมา ด้วยโฆษณาที่ตรงความสนใจ เพิ่มโอกาสในการเปลี่ยนเป็นลูกค้า

สารบัญ

เคยสงสัยไหมว่าทำไมเมื่อคุณเข้าไปดูสินค้าในเว็บไซต์หนึ่ง แต่ยังไม่ได้ซื้อ สินค้านั้นกลับปรากฏขึ้นในโฆษณาบน Facebook หรือเว็บไซต์อื่น? นั่นคือ Retargeting หรือ Remarketing กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ช่วยดึงดูดผู้ใช้ที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ของคุณให้กลับมาทำการซื้อ หรือดำเนินการที่คุณต้องการ ในบทความนี้ เราจะพาคุณเจาะลึกว่า Retargeting คืออะไร และสามารถทำได้ผ่านช่องทางไหนบ้าง พร้อมแนะนำวิธีใช้ Retargeting อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มโอกาสในการเปลี่ยนผู้เข้าชมให้กลายเป็นลูกค้า และช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืน

Retargeting คืออะไร

Retargeting คือกระบวนการแสดงโฆษณาให้กับผู้ที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือแบรนด์ของคุณมาก่อน เช่น การเยี่ยมชมเว็บไซต์ การคลิกดูสินค้า หรือการเพิ่มสินค้าลงในตะกร้า แต่ยังไม่ได้ดำเนินการซื้อ การใช้ Retargeting ช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้กลับมาและทำการซื้อสินค้าหรือบริการของคุณในที่สุด

ทำไม Retargeting ถึงสำคัญ

Retargeting หรือ Remarketing มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มยอดขายและสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า โดยเฉพาะในยุคที่ผู้บริโภคต้องเจอกับข้อมูลและโฆษณาจำนวนมากในทุกวัน การที่แบรนด์ของคุณสามารถติดตามและดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคกลับมาได้นั้นถือเป็นโอกาสที่มีมูลค่าสูง นี่คือเหตุผลว่าทำไม Retargeting ถึงสำคัญต่อธุรกิจ

เพิ่มโอกาสในการเปลี่ยนผู้เข้าชมเป็นลูกค้า

จากการศึกษาพบว่า 98% ของผู้เข้าชมเว็บไซต์ครั้งแรกไม่ทำการซื้อทันที นั่นหมายความว่าการโฆษณาครั้งแรกอาจไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนพวกเขาให้เป็นลูกค้า Retargeting ช่วยให้แบรนด์ของคุณติดตามผู้ใช้เหล่านี้ และแสดงโฆษณาอีกครั้งในเวลาที่เหมาะสม เช่น ขณะที่พวกเขากำลังใช้งานโซเชียลมีเดียหรือท่องเว็บไซต์อื่น ๆ การทำ Retargeting จึงช่วยให้แบรนด์ของคุณมีโอกาสครั้งที่สอง (หรือครั้งที่สาม) ในการสร้างความประทับใจและกระตุ้นให้เกิดการซื้อ

สร้างความจดจำแบรนด์ (Brand Awareness)

ในโลกที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน แบรนด์ที่ผู้บริโภคจำได้มักเป็นแบรนด์ที่ได้รับโอกาสในการขายมากกว่า Retargeting ช่วยให้แบรนด์ของคุณปรากฏในสายตาของผู้ใช้ซ้ำ ๆ สร้างความคุ้นเคยและทำให้แบรนด์อยู่ในใจของผู้บริโภคในระยะยาว ตัวอย่างเช่น หากผู้บริโภคเคยดูรองเท้าคู่หนึ่งในเว็บไซต์ของคุณ โฆษณาที่แสดงรองเท้าคู่นั้นใน Facebook หรือ Google Display Network จะช่วยเตือนให้พวกเขากลับมาพิจารณาการซื้ออีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าเป็นผลดีต่อธุรกิจของท่านอย่างแน่นอน

ลดต้นทุนในการหาลูกค้าใหม่ (Cost Efficiency)

การได้ลูกค้าใหม่ (Customer Acquisition) มักมีต้นทุนที่สูงกว่า การรักษาผู้ใช้ที่เคยสนใจแบรนด์ของคุณมาก่อน การทำ Retargeting ช่วยให้คุณมุ่งเป้าไปยังกลุ่มคนที่มีแนวโน้มจะซื้อสูง (High-Intent Audience) เนื่องจากพวกเขาเคยแสดงความสนใจในสินค้าและบริการของคุณมาแล้ว ด้วยเหตุนี้ Retargeting จึงมี ค่าใช้จ่ายในการโฆษณาต่อ Conversion ที่ต่ำกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับการโฆษณาเพื่อหาลูกค้าใหม่ (Prospecting Ads)

ปรับปรุง ROI ของการตลาด (Marketing ROI)

Retargeting ไม่เพียงช่วยเพิ่มโอกาสในการแปลงผู้ใช้ให้กลายเป็นลูกค้า แต่ยังช่วยปรับปรุงผลตอบแทนจากการลงทุนในโฆษณา (ROI) โดยการเน้นกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพสูง แทนที่จะกระจายงบประมาณไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ยังไม่มีความสนใจ ตัวอย่างเช่น โฆษณา Retargeting ที่แสดงโปรโมชั่นพิเศษหรือส่วนลดสำหรับสินค้าที่ผู้ใช้เคยดู จะช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ในการปิดการขายในเวลาที่เหมาะสม

สนับสนุนการตัดสินใจซื้อ

ในหลายกรณี ผู้บริโภคอาจลังเลที่จะซื้อสินค้าเพราะยังไม่มั่นใจหรือยังต้องการเวลาในการตัดสินใจ การทำ Retargeting ด้วยข้อความที่กระตุ้น เช่น “รีบซื้อก่อนสินค้าหมด” หรือ “รับส่วนลดพิเศษสำหรับวันนี้เท่านั้น” ช่วยผลักดันให้ผู้บริโภคตัดสินใจเร็วขึ้น Retargeting ยังสามารถใช้เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้า เช่น รีวิวจากลูกค้า หรือการการันตีคุณภาพ เพื่อช่วยลดความกังวลและเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ

สร้างประสบการณ์ที่ตรงใจผู้บริโภค

Retargeting ใช้ข้อมูลพฤติกรรมผู้ใช้ในการปรับแต่งโฆษณาให้ตรงกับความสนใจของแต่ละบุคคล เช่น การแสดงสินค้าที่พวกเขาเคยดูหรือเพิ่มลงในตะกร้า วิธีนี้ช่วยให้ผู้บริโภครู้สึกว่าแบรนด์ของคุณเข้าใจความต้องการของพวกเขา ซึ่งช่วยเสริมสร้างความไว้วางใจและความภักดีต่อแบรนด์

กระตุ้นยอดขายข้ามสินค้า (Cross-Selling) และเพิ่มมูลค่าต่อคำสั่งซื้อ (Upselling)

Retargeting ไม่เพียงช่วยให้ผู้ใช้กลับมาซื้อสินค้าเดิมที่สนใจ แต่ยังสามารถใช้แนะนำสินค้าที่เกี่ยวข้องหรือสินค้าที่เป็นอัปเกรด เช่น

  • แนะนำเครื่องประดับที่เข้าชุดกับเสื้อผ้าที่ลูกค้ากำลังพิจารณา
  • แสดงอุปกรณ์เสริมสำหรับแกดเจ็ตที่ลูกค้าเคยซื้อ

สิ่งนี้ช่วยเพิ่มมูลค่าต่อคำสั่งซื้อ (Average Order Value) และยอดขายรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประเภทของ Retargeting เลือกให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ

การทำ Retargeting หรือการติดตามผู้ใช้ที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ของคุณมาก่อน มีหลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและพฤติกรรมของผู้ใช้ บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจประเภทต่าง ๆ ของ Retargeting เพื่อเลือกใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ

Site Retargeting

Site Retargeting เป็นประเภทที่พบได้บ่อยที่สุด โดยใช้ข้อมูลจากผู้ที่เคยเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ เช่น หน้าสินค้า หน้าตะกร้าสินค้า หรือหน้าโปรโมชั่น เพื่อแสดงโฆษณาเฉพาะให้กับกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้อีกครั้ง

Search Retargeting

Search Retargeting คือการแสดงโฆษณาให้กับผู้ใช้ที่ค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับสินค้า บริการ หรือแบรนด์ของคุณในเครื่องมือค้นหา เช่น Google หรือ Bing

Social Media Retargeting

Social Media Retargeting เป็นการแสดงโฆษณาบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, Twitter หรือ LinkedIn สำหรับผู้ใช้ที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ของคุณ

Email Retargeting

Email Retargeting คือการใช้ข้อมูลจากอีเมลที่ผู้ใช้เปิดหรือคลิกลิงก์เพื่อแสดงโฆษณาเพิ่มเติมบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ หรือการส่งอีเมลติดตามโดยตรง

Dynamic Retargeting

Dynamic Retargeting เป็นการแสดงโฆษณาที่ปรับเปลี่ยนเนื้อหาแบบอัตโนมัติตามพฤติกรรมของผู้ใช้ เช่น สินค้าที่ผู้ใช้เคยดู เพิ่มในตะกร้า หรือค้นหา

App Retargeting

App Retargeting คือการแสดงโฆษณาไปยังผู้ที่เคยดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของคุณ แต่ไม่ได้เปิดใช้งานแอปหรือยังไม่ได้ทำการซื้อ

Video Retargeting

Video Retargeting ใช้กับผู้ที่เคยชมวิดีโอของคุณบนแพลตฟอร์มเช่น YouTube, Facebook หรือ Instagram โดยแสดงโฆษณาที่เกี่ยวข้องเพื่อดึงดูดความสนใจ

Cross-Channel Retargeting

Cross-Channel Retargeting คือการติดตามผู้ใช้ผ่านช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย หรือแอปพลิเคชัน เพื่อให้โฆษณาปรากฏในหลายแพลตฟอร์ม

สรุป

Retargeting เป็นมากกว่าการแสดงโฆษณาซ้ำ ๆ แต่คือกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้า สร้างโอกาสใหม่ ๆ ในการขาย ลดต้นทุนการโฆษณา และสร้างความจดจำแบรนด์ในระยะยาว หากคุณต้องการเพิ่มโอกาสความสำเร็จให้กับธุรกิจในยุคดิจิทัล การ Retargeting คือหนึ่งในกลยุทธ์ที่คุณไม่ควรมองข้าม

 

Next Article

Marketing Automation คืออะไร เหตุใดสำคัญในการตลาดยุคดิจิทัล

Write a Comment

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Subscribe to our Newsletter

Subscribe to our email newsletter to get the latest posts delivered right to your email.
Pure inspiration, zero spam ✨